ประวัติผู้เขียน

ลิลิต ญาณิน เติบโตท่ามกลางวัฒนธรรมและความเชื่อที่หลากหลาย ด้วยครอบครัวพุทธเถรวาทที่เข้มแข็งทั้งทางพุทธวินัยและความเข้มงวดในครอบครัวทหาร ทำให้เธอคุ้นเคยกับการพิจารณาชีวิตด้วยเหตุผลและศรัทธาในเวลาเดียวกัน

การศึกษาของเธอเริ่มต้นในโรงเรียนคาทอลิก ซึ่งปลูกฝังระเบียบ เมตตา และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นควบคู่ไปกับการเรียนรู้ทางวิชาการอย่างเข้มข้น เธอสำเร็จการศึกษาระดับศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร และต่อมาระดับมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ (การเงิน) จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ด้วยผลการเรียนระดับเกียรตินิยม ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยลิเบอร์ตี้ สหรัฐอเมริกา

ตั้งแต่วัยเด็ก ลิลิตฝึกสมาธิและภาวนาเป็นกิจวัตร เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เธอขยายการเรียนรู้ไปสู่พุทธมหายานและแนวคิดว่าด้วยความเมตตาต่อสรรพสิ่ง การศึกษาต่อในต่างประเทศและประสบการณ์การใช้ชีวิตในออสเตรเลียทำให้เธอเห็นคุณค่าของความแตกต่าง และเข้าใจว่าศรัทธากับปัญญาเป็นพลังที่เกื้อหนุนกัน

ช่วงวัยรุ่น เธอได้สัมผัสบรรยากาศของชุมชนคริสเตียนนิกายเพรสไบทีเรียน และเรียนรู้คุณค่าของศรัทธาในพระเจ้าในฐานะพลังแห่งความรักและการให้อภัย ยี่สิบปีต่อมา เธอเข้าปฏิบัติธรรมในเพศชีพราหมณ์ ถือศีลแปดตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อเจริญสมาธิและพิจารณาธรรมในชีวิตจริง และเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ลิลิตได้ศึกษาศาสนาฮินดูสายไศวะ ซึ่งเปิดมุมมองต่อธรรมชาติของจิตและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพลังจักรวาล ประสบการณ์จากหลากหลายเส้นทางเหล่านี้ทำให้เธอเข้าใจว่า ทุกศาสนาคือหนทางสู่ความสงบ ความเมตตา และความเข้าใจในตนเองอย่างแท้จริง

ในชีวิตการทำงาน ลิลิตเคยอยู่ในแวดวงธุรกิจ การธนาคาร และการสอน ก่อนจะหันมาทุ่มเทให้กับงานเขียนและการถ่ายทอดความรู้ด้านสติปัญญาและจิตวิทยาภายใน ผลงานของเธอสะท้อนการบูรณาการระหว่างศาสตร์ตะวันตกกับปัญญาเชิงพุทธ โดยมุ่งให้ผู้อ่านได้กลับมาเข้าใจตนเองในระดับจิต

ลิลิตเคยผ่านประสบการณ์สูญเสียและเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ ซึ่งกลายเป็นแรงผลักให้เธอหันกลับมาศึกษาจิตอย่างลึกซึ้ง การภาวนาและความสงบในใจกลายเป็นที่พำนักทางจิตวิญญาณ และเป็นรากของความเข้าใจที่ปรากฏในงานเขียนทุกชิ้นของเธอ

ลิลิตเชื่อว่าชีวิตของมนุษย์คือกระบวนการแห่งการเรียนรู้และการเปล่งแสงในแบบเฉพาะของแต่ละคน เธอมองทุกความท้าทายเป็นครู และเชื่อในพลังของการเติบโตร่วมกันระหว่างตนเอง ผู้อื่น และโลกโดยรอบ

0 comments